3 Supplements ที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพ

By Bro Sis ติดรีวิว - ธันวาคม 14, 2561

3 Supplements ที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพ



หากใครที่รู้จักบูมจะพอรู้ว่าบูมทานอาหารเสริมมาตั้งนานแล้ว จุดประสงค์หลักๆ ในการทานอาหารเสริมของบูมนั้นไม่ใช่เรื่องผิวพรรณ แต่เป็นสุขภาพโดยรวม เพื่อชะลอวัย ชะลอความเสื่อมของร่างกาย รวมถึงซ่อมแซมส่วนที่บกพร่อง และเสริมส่วนที่บูมขาดจากสิ่งที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน

วันนี้เลยขอหยิบอาหารเสริม 3 ตัวที่บูมมองว่าน่าสนใจในด้านส่วนผสม มีความปลอดภัยน่าเชื่อถือ และช่วยให้สุขภาพโดยรวมของบูมดีขึ้นจนรู้สึกได้ เลยขอเอามาแชร์เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อนะครับ

1. EVITON : ASTA 6MG. PLUS



ถ้าใครเคยทานอาการเสริมที่มีส่วนผสมของ Super Antioxidant บูมเชื่อว่าต้องเคยได้ยินชื่อ "Astaxanthin" เพราะนับว่าเป็น 1 ใน สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ณ เวลานี้ ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจก่อนดีกว่าว่าเจ้า Astaxanthin คืออะไร

Astaxanthin คืออะไร?



แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) เป็นสารในกลุ่มแซนโทรฟิลล์ / ตระกูลแคโรทีนอยด์ (Xanthophyll group / Carotenoid family) เป็นสารสีแดงที่พบในปลาแซลมอน ไข่ปลาคาเวียร์ เปลือกกุ้งปูและ Microalgae Haematococcus Pluvialis ร่างกายไม่สามารถสร้างสารชนิดนี้ได้ เราจะได้รับสารชนิดนี้จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ในปริมาณที่น้อยมาก แต่ในทางกลับกันประโยชน์มหาศาล

ปัจจุบันมีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทำการศึกษาประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ พบว่า แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้แรงกว่า วิตามิน ซี 6,000 เท่า, CoQ10 800 เท่า, วิตามิน อี 550 เท่า, Green tea catechins 550 เท่า, Alpha lipoic acid 75 เท่า, เบต้า แคโรทีน 40 เท่า และ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่า

ส่วนผสมที่น่าสนใจ

  • Astaxanthin 6 mg. : ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ Astaxanthin ที่ทางแบรนด์ EVITON ใส่เข้ามา เข้มข้นถึง 6 มิลลิกรัม ซึ่งนับว่าเพียงพอสำหรับการทานเพื่อดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์มีมากมาย อาทิ : 
    • ช่วยให้ผิวคงความอ่อนวัย ลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและจุดด่างดำ
    • ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการเมื่อยล้าของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์
    • ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อร่างกาย
    • ช่วยดูแลสุขภาพกระเพาะอาหาร
    • ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองแตก
  • น้ำมันรำข้าว 114.38 mg : น้ำมันพืชที่สกัดจากรำข้าว มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี ในกลุ่มโทโคฟีรอลประมาณ 19-40% และกลุ่มโทโคไตรอีนอล 51-81% และโอรีซานอล (Oryzanol) ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-Cholesterol) นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่อง :
    • ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
    • ลดความดันโลหิตสลายลิ่มเลือดทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
    • ลดระดับน้ำตาลในเลือดเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
    • มีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็ง
    • ช่วยให้ผ่อนคลายหลับสบาย

ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้หลังทาน ASTA 6mg. PLUS

เนื่องจากบูมทำงานที่ใช้สายตาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะถ่ายภาพ ตัดต่อคลิป รวมถึงเขียนรีวิว ซึ่งก็แทบจะต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์วันละ 8-10 ชม. ทำให้เกิดการเมื่อยล้าสายตาเป็นอย่างมาก ยิ่งนานวันยิ่งรู้สึกได้ว่าสายตาแย่ลงเรื่อยๆ แต่หลังจากที่บูมได้ลองกิน ASTA 6mg. PLUS มาซักระยะรู้สึกว่าประสิทธิภาพในการทำงานโดยใช้สายตาดีขึ้นมาก ความเมื่อยล้าสายตาที่เคยมีลดลงอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บูมมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งนับเป็นการเดินทางที่ต้องเดินเท้าค่อนข้างเยอะ จริงอยู่ว่าก่อนไปบูมได้ฟิตร่างกายมาซักระยะ แต่ที่น่าแปลกคือในแต่ละวันที่บูมเดินทางกลับไม่รู้สึกเมื่อยขาเท่าไหร่นัก จนเพื่อนร่วมทริปถามเป็นเสียงเดียวกันว่า "นี่แกมีตัวช่วยอะไรกันแน่ ?


2. EVITON : Ginkgo Plus Vitamin



Ginkgo หรือ ใบแปะก๊วย พืชพื้นเมืองเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณโดยเฉพาะในแถบประเทศจีน เกาหลี และญี่ปุ่น มีลำต้นขนาดใหญ่ ใบเป็นรูปพัด แปะก๊วยมีการนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาแบบแพทย์แผนจีนโดยเชื่อว่ามีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสมอง ความคิด รวมถึงระบบไหลเวียนเลือด นอกจากนี้เมล็ดแปะก๊วยยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย

หลายคนอาจมองว่ามันก็แค่สารสกัดจากใบแปะก๊วย ไม่เห็นมีอะไรว้าวเลยหนิ คนที่คิดแบบนี้บอกเลยว่าพลาดมาก เพราะเมื่อบูมมาไล่ดูส่วนประกอบที่ระบุหลังกล่องก็พบว่า ชื่อ Ginkgo Plus Vitamin ไม่ได้ได้มาเล่นๆ เราไปไล่ดูส่วนประกอบที่น่าสนใจกันดีกว่าครับ

ส่วนประกอบที่น่าสนใจ

  • L-Theanine 150 mg. : คือ กรดอะมิโน (Amino Acid) ที่สามารถค้นพบได้ตามธรรมชาติจากต้นไม้ โดยถูกค้นพบเมื่อปี 1949 จากศูนย์วิจัยในโตเกียวจากการสกัดจาก เกียวกุโระ หรือ Gyokuro ซึ่งเป็นชาเขียวคุณภาพสูงที่มีระดับที่ดีที่สุดได้มาจากยอดอ่อนของใบชา โดยปกติก่อนช่วงเวลาเก็บเกี่ยวเกียวกุโระจะอยู่ในที่ร่มเพื่อรักษาใบชาจากแสงแดดทำให้สารแอล-ธีอะนีนไม่ลดน้อยลง ในประเทศญี่ปุ่น L-Theanine ได้ถูกยอมรับอย่างแพร่หลายให้ใช้ในอาหาร เช่น ชาสมุนไพร เครื่องดื่ม และ ของหวาน เป็นต้น โดยประโยชน์หลักๆ ของ L-Theanine มีดังนี้ : 
    • ลดความตึงเครียด ลดความดันในโลหิต
    • เพิ่มคลื่น Alpha Wave ในสมอง (Alpha Wave หรือ คลื่นอัลฟา คือคลื่นสมองที่มีความถี่ประมาณ​ 8-13 รอบต่อวินาที คลื่นอัลฟาจะช่วยลดความวุ่นวายในสมอง ทำให้จิตใจสงบ พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น) โดยเป็นผลจากการวิจัยล่าสุดของ Unilever Food and Health Research Institute ยืนยันว่าชาหนึ่งแก้วนั้นสามารถส่งผลต่อคลื่นสมองได้อย่างชัดเจนผ่านเครื่อง EEG (Electroencephalography) หรือเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง

  • Gingko Biloba Extract 100mg. : สารสกัดจากแปะก๊วย (Ginkgo biloba) มีสรรพคุณในการบำรุงการไหลเวียนของเลือดและต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยสารสำคัญที่พบในใบแปะก๊วยคือ Ginkgolides ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งการอักเสบ และการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ทั้งยังมีผลช่วยลดระดับสารอะไมลอยด์ เบต้า(Amyloid-β) ที่ไปขัดขวางกระบวนการจดจำของสมอง นอกจากนี้ ยังพบสารพฤกษเคมี (Phytochemicals) เช่น ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และเทอร์พีนอยด์ (Terpenoids) ที่มีผลต่อการต้านอนุมูลอิสระสูงรวมอยู่ด้วย สารสกัดจากใบแปะก๊วยจึงมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพของระบบประสาท และสมอง
    • โดยผลวิจัยพบว่าประสิทธิภาพของการเรียนรู้และความจำ หลังจากได้รับสารสกัดจากใบแปะก๊วยปริมาณ 120 มิลลิกรัม พบว่า 
      • ความสามารถในการจำเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีผลต่อการกระตุ้นการเรียนรู้และการคิดวิเคราะห์ในผู้ทดสอบกลุ่มวัยรุ่น (อายุ>20 ปี)
      • และเมื่อทำการทดสอบในผู้สูงอายุ (>85 ปี) ที่มีสุขภาพดีจำนวน 636 คน พบว่า การได้รับสารสกัดจากใบแปะก๊วยปริมาณ 240 มิลลิกรัม สามารถลดการหลงลืม เพิ่มความจำและการหมุนเวียนของหลอดเลือดสมองได้ จึงช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
  • Soy Protein Peptide : คือโปรตีนที่ผ่านการย่อยด้วยเอนไซม์จนมีโมเลกุลขนาดเล็กนั่นเอง ซึ่งโปรตีนนั้นเป็นสารอาหารแหล่งเดียวที่ให้ธาตุไนโตรเจนซึ่งร่างกายจะนำมาสร้าง เป็นสาร Bioactive ที่ใช้ควบคุมการทำงานต่างๆของร่างกาย นับตั้งแต่ระบบภูมิคุ้มกัน ฮีโมโกลบิน (ส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง) ฮอร์โมนบางชนิด และสารสื่อนำประสาท(Neurotransmitter) 
    • จากผลการวิจัยหลายฉบับ ชี้ให้เห็นว่าที่บริเวณลำไส้เล็กนั้น มีช่องทางพิเศษสำหรับให้ร่างกายสามารถดูดซึมเปปไทด์ได้โดยตรง เรียกว่า Peptide Transporter ซึ่งเป็นช่องทางที่แยกจากช่องทางสำหรับกรดอะมิโน และถ้าจำนวนของกรดอะมิโนที่เกาะมีขนาดค่อนข้างเล็ก เปปไทด์จะถูกดูดซึมเพียงครั้งละ 1 โมเลกุลต่อหนึ่งช่องทางเท่านั้น ขณะที่เปปไทด์จำนวนมากสามารถดูดซึมได้ในทันที ดังนั้น Soy Peptide จึงสามารถถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อร่าง กายมี
    • ได้มีการทดลองเกี่ยวกับการตอบโจทย์การคำนวณและการใช้ความจำ โดยกลุ่มแรกได้รับ Soy Peptide ส่วนอีกกลุ่มไม่ได้รับ จากผลการทดลองสรุปได้ว่า Soy Peptide มีคุณสมบัติในการลดความเครียด เพราะ Soy Peptide มีผลให้ระดับของฮีโมโกลบินที่มีออกซิเจนไหลเวียนในสมองส่วนหน้าสูงขึ้นทำให้ สมองมีความสดชื่น 
    • นอกจากนี้ยังมีรายงานผลการวิจัยจาก Nation Food Research Institute ประเทศญี่ปุ่นที่แสดงให้เห็นว่า การบริโภค Soy Peptide ในช่วงระหว่างวันสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียด รวมถึงลดความเหนื่อยล้าของสมองจากการทำงานหรือเรียนหนังสือได้เช่นกัน 

ผลลัพธ์หลังทาน Ginkgo Plus Vitamin

ในแต่ละวันบูมต้องเขียนบทความค่อนข้างเยอะ แน่นอนว่าบางครั้งก็แอบมีอาการสะดุดของความคิดบ้าง (ใครที่ทำงานคล้ายๆ กับบูมน่าจะเคยเป็น) แต่หลังจากที่บูมทานไปซักระยะ กลับรู้สึกว่าอาการเหล่านี้ลดน้อยลง แต่ก็ถึงกับหายไปซะทีเดียวนะครับ ยิ่งถ้าวันไหนที่ต้องใช้ความคิดเยอะๆ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็แอบมีสะดุดบ้างเหมือนกัน (แต่ก็นับว่าลดน้อยลงค่อนข้างเยอะเลยหละครับ)


3. Suphap Osod : 4 MiX Oil


ตัวสุดท้ายที่หยิบมารีวิวให้ชมในวันนี้ มาจากแบรนด์ "Suphap Osod" ที่บูมเคยรีวิวสมุนไพรของเค้าไปเมื่อไม่นานมานี้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติ่ม...) ครั้งนี้ทางแบรนด์ได้ส่งเจ้า 4 Mix Oil มาให้บูมทดลองทาน ต้องแอบกระซิบก่อนว่าเนื่องจากอาหารเสริมตัวนี้มีส่วนผสมจากน้ำมันกระเทียม ใครที่เป็นแดร็กคูล่าไม่ถูกโรคกับกระเทียมอาจทานยากซักเล็กน้อย แต่ถ้าทานได้มันดีนะเออ เอาหละไม่พูดมาก เราไปดูรีวิวดีกว่าครับ

ส่วนประกอบหลักของ 4 MiX Oil

  • Coconut Oil 150mg. : คือ น้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อผลของมะพร้าว (Cocos nucifera L.) โดยองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าวคือกรดไขมันอิ่มตัว (เกิน 90% ของปริมาณกรดไขมันทั้งหมด) ซึ่งกรดไขมันเหล่านี้จะมีขนาดโมเลกุลปานกลาง (Medium chain fatty acid) อย่างเช่น กรดลอริก (Lauric acid) เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะถูกเผาผลาญได้ดี จึงถูกสะสมในเนื้อเยื่อไขมันได้น้อยกว่ากรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลยาว
    • จากการศึกษาพบว่าน้ำมันมะพร้าวไม่ได้มีผลต่อการลดลงของน้ำหนักตัวของกลุ่มผู้ทดลอง (น้ำหนักตัวเท่าเดิมและไม่มีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น) และไม่ได้ทำให้ไขมันชนิดเลว (LDL) เพิ่มมากขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) จึงมีผลโดยตรงต่อการช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุมาจากไขมันเลวลงได้
  • Perilla Seed Oil 150mg. : น้ำมันชนิดหนึ่งที่สกัดจากเมล็ดพืชที่มีชื่อว่า “งาขี้ม่อน” ที่เป็นพืชตระกูลเดียวกับสะระแหน่หรือมิ้นต์ น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดงาขี้ม่อน จะมีสีเหลืองทอง มีกลิ่นหอมและมีรสชาติเฉพาะตัว เป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (PUFA) จัดว่าเป็นน้ำมันที่มีสัดส่วนของปริมาณโอเมก้า 3 (ALA omega 3) สูงที่สุด โดยมีถึง 54-64% โอเมก้า 6 (linoleic acids) จะมีอยู่ประมาณ 14% และมีโอเมก้า 9 รวมอยู่ด้วย ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันโรคชนิดต่างๆ เช่น โรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ โรคมะเร็ง การอักเสบ และรูมาตอยด์ เป็นต้น
  • Rice Bean Oil 150 mg. : น้ำมันพืชที่สกัดจากรำข้าว มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี ในกลุ่มโทโคฟีรอลประมาณ 19-40% และกลุ่มโทโคไตรอีนอล 51-81% และโอรีซานอล (Oryzanol) ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-Cholesterol) นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่อง :
    • ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
    • ลดความดันโลหิตสลายลิ่มเลือดทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
    • ลดระดับน้ำตาลในเลือดเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
    • มีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็ง
    • ช่วยให้ผ่อนคลายหลับสบาย
  • Garlic Oil 50mg. : จากการค้นคว้าและวิจัยพบว่าธรรมชาติมีการผสมผสานสารสำคัญในกระเทียมไว้อย่างลงตัว อาทิเช่น สารประกอบซัลเฟอร์อย่างน้อย 33 ชนิด ซึ่งรวมถึง อัลลิซิน (Allicin) และ   S-allylmercaptocystein กรดอะมิโนและไกลโคไซด์กว่า 17 ชนิด เอ็นไซม์หลากหลายชนิด เกลือแร่ โดยเฉพาะ เซเลเนียม (Selenium)
    • โดยสารสำคัญเหล่านี้ เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้กระเทียมมีคุณประโยชน์มากมายแก่ร่างกาย เป็นเสมือนยารักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ โดยช่วยลดระดับไขมันในกระแสเลือด 
    • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้น 
    • กระเทียมยังเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะ ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อต่างๆ โรคมะเร็ง และช่วยต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกาย

ผลลัพธ์หลังทาน 4 Mix Oil

บูมได้หยิบเข้า 4 MiX Oil ไปทานในช่วงเดินทางไปไต้หวันเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าสภาพอากาศในช่วงที่บูมเดินทางนั้นค่อนข้างแย่มาก มีทั้งฝน ทั้งแดด และลมหนาวสลับกันมั่วไปหมด จนเพื่อนร่วมทริปหลายคนถึงกับเป็นไข้หวัดเลยทีเดียว แต่บูมกลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆที่ปกติเวลาไปต่างประเทศ บูมมักจะมีอาการภูมิแพ้กำเริบ หายใจไม่สะดวก 

แต่ทริปนี้กลายเป็นว่าบูมไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆที่ตื่นแต่เช้า แถมนอนก็ดึก สภาพอากาศก็แปรปรวน แต่กลับไม่มีแม้แต่อาการคัดจมูก เหมือนว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นยังไงอย่างงั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกพอสมควร 

สรุป


ต้องขอออกตัวก่อนว่าบูมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ หรือมีความรู้ด้านการแพทย์แต่อย่างใด ดังนั้นผลลัพธ์ที่กล่าวมานี้เป็นความรู้สึกส่วนตัว รวมถึงการสังเกตุตัวเองระหว่างทานเท่านั้น นอกจากนี้โดยปกติแล้วบูมมีการตรวจร่างกายทุกๆ 6 เดือนเพื่อเช็คสุขภาพ คอลเลสเตอรอล ค่าเอ็นไซม์ตับ การทำงานของไต รวมถึงมีการปรึกษาแพทย์ทุกครั้งในการทานอาหารเสริม ดังนั้นหากใครที่จะทดลอง บูมแนะนำว่าลองศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำก่อนรับประทานจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ

  • Share:

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น