What is Exfoliation ?
ซึ่งเมื่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ ส่งผลให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ที่อยู่บนผิวชั้นขี้ไคล ไม่หลุดออกไปตามธรรมชาติ และทับถม อุตันรูขุมขน ทำให้การระบายของน้ำมันบนผิวทำได้แย่ลง จนเกิดเป็นสิวอุดตัน ซึ่งหากติดเชื้อก็อาจทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบได้อีก
เพราะการ Exfoliate ผิวจะทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น เนื่องจากชั้นขี้ไคลที่เคยช่วยกันแดดให้มันถูกลอกออกไป การปกป้องผิวด้วย Sunscreen (ครีมกันแดด) จึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะการ Exfoliate ผิวโดยไม่ใช้ Sunscreen ในตอนกลางวันจะเปิดโอกาสให้ผิวของคุณถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ง่ายกว่าปกติ
ทำไมต้องผลัดเซลล์ผิว ?
นั่นก็เพื่อช่วยให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติ กลับมาทำหน้าที่ได้ดีขึ้น เนื่องจากเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพที่อยู่บนใบหน้า ทำให้ผิวแห้งลอก หมองคล้ำ อุดตัน และนำไปสู่การเกิดสิวได้ ดังนั้นการผลัดเซลล์ผิวจึงทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี และเรียบเนียนขึ้นนั่นเอง
การผลัดเซลล์ผิวมีกี่ประเภท ?
การผลัดเซลล์ผิวนอกเหนือจากกระบวนการตามธรรมชาติ สามารถแบ่งได้หลักๆ 2 อย่างคือ
![]() |
ขอบคุณภาพจาก www.roseskincareproduct.com |
- Mechanical : คือการใช้แรงไปกระทำเพื่อให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพบนชั้นขี้ไคลหลุดออกไป เช่น การ Scrub แต่วิธีการนี้หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม หรือ ใช้แรงที่มากเกินไป อาจทำให้ผิวเสียหาย และทำร้ายผิวได้
![]() |
ขอบคุณภาพจาก Youtube Chanel : Gothamista |
- Chemical : คือการทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA ลงบนผิว เพื่อให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพคลายตัว และค่อยๆ หลุดออกมา โดยไม่ต้องใช้แรงกระทำบนผิว
จากข้อมูลข้างบน ส่วนตัวแล้วบูมชอบการผลัดเซลล์ผิวบนใบหน้าแบบ Chemical มากกว่า เนื่องจากไม่จำเป็นจ้องใช้แรงในการ Scrub แถมยังหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ Scrub ที่มีเม็ด Scrub ที่ค่อนข้างคมไปได้อีก
แล้วสารผลัดเซลล์ผิวแบบไหนหละ ที่เหมาะกับคุณ ?
AHAs (Alpha Hydroxy Acids) : มีอยู่หลายตัว แต่ที่นิยมมากที่สุดก็คือ Glycolic Acid และ Lactic Acid โดยที่ Glycolic Acid เป็นรูปแบบของ AHAs ที่มีประสิทธิสูงสุดเนื่องจากมันมีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด
ซึ่งนอกจากช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพแล้ว AHAs ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนในผิวชั้นกลางได้อีกด้วย (ถ้าใช้ในความเข้มข้นที่เหมาะสม) นอกจากนี้ AHAs ยังมีคุณสมบัติช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้อีก
BHA (Beta Hydroxy Acids) : หรือที่รู้จักกันในชื่อสาร Salicylic Acid โดย Salicylic Acid นั้นเป็นสารกลุ่ม Salicylates เช่นเดียวกับ Aspirin ดังนั้นถ้าคุณแพ้ Aspirin ก็ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี BHA
BHA มีคุณสมบัติที่เหมาะกับคนผิวมันหรือเป็นสิวหลายอย่าง
- BHA สามารถละลายในน้ำมันได้ จึงซึมลงไปในรูขุมขนเพื่อ Exfoliate ปรับสภาพรูขุมขนและลดการอุดตันได้เป็นอย่างดี
- BHA มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้ออ่อน ๆ จึงช่วยลดสิวอักเสบได้บ้าง
- Salicylic Acid มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและต้านระคายเคืองได้ดี นอกจากนี้ BHA ยังช่วยทำให้สารอื่น ๆ ซึมลงผิวได้ดีขึ้นอีกด้วย
ความแตกต่างหลัก ๆ ก็คือ AHAs เป็นสารที่ละลายในน้ำ ส่วน BHA เป็นสารที่ละลายในน้ำมัน
AHAs และ BHA สามารถใช้ได้กับผิวทุกประเภท แต่หลัก ๆ แล้ว AHAs จะเหมาะกับผิวแห้งหรือผิวธรรมดา หรือผิวที่ได้รับความเสียหายจากแสงแดด มีจุดด่างดำ ส่วนBHA จะเหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน ผิวเป็นสิว หรือมีผิว Sensitive เป็นหลัก
ผลิตภัณฑ์ Chemical Exfoliate ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร?
การจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA ให้ได้ประสิทธิผลสูงสุดนั้นต้องคำนึงถึงสามปัจจัยหลัก ๆ คือ
- ค่า pH : ค่า pH หรือค่าความเป็นกรด-ด่าง ที่ดีสำหรับ AHAs หรือ BHA นั้นควรมีค่า pH ประมาณ 3 – 4 โ ดยค่า pH ที่ทาง FDA กำหนดว่าเหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือ 3.5
- ความเข้มข้น :
- ความเข้มข้นของ AHA ที่เหมาะสมสำหรับการใช้กับผิวหน้าไม่ควรมี AHAs เข้มข้นเกิน 10 % และสำหรับผิวกายไม่ควรมี AHAs เกิน 15 % หากคุณพึ่งเริ่มต้นใช้ AHAs เป็นครั้งแรกหรือมีผิว Sensitive ก็ควรเลือกความเข้มข้นที่ต่ำหน่อย เพราะความเข้มข้นที่สูงขึ้นก็หมายถึงโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงก็เพิ่มขึ้นด้วย
- ความเข้มข้นของ BHA ที่เหมาะสมสำหรับการใช้ประจำวันก็คือ 1 – 2 % ความเข้มข้นที่มากกว่านี้จะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- เนื้อของผลิตภัณฑ์ :
- AHAs ควรจะอยู่ในรูปของน้ำ เจล หรือเซรั่มจะดีที่สุดเนื่องจากสารกลุ่มนี้ละลายในน้ำ เบสโลชั่นหรืออีมัลชั่นก็ยังพอไหว แต่การใช้ AHAs ในเบสครีมที่เข้มข้นนั่นจะทำให้ AHAs ซึมลงผิวได้ไม่ดีเท่าที่ควร
- BHA ก็ควรจะอยู่ในเบสน้ำ เจล เพราะผู้มีผิวมันไม่เหมาะจะใช้เบสโลชั่นหรือครีมเนื่องจาก Emollients และ Oil จะไปอุดตันผิวเพิ่มได้
Exfoliate กับ Sunscreen
Sunscreen ที่เลือกใช้ควรมีค่า SPF30 ขึ้นไป ที่สำคัญควรเลือกชนิดที่สามารถกันรังสี UVA ได้ด้วย โดยดูใน Ingredients List ว่ามีส่วนผสมของ Zinc Oxide, Titanium Dioxide, Avobenzone (หรือใช้ชื่อว่า Parsol 1789, Butyl Methoxydibenzoylmethane,BMDM, Eusolex 9020, Escalol 517) Mexoryl SX (หรือใช้ชื่อว่า Ecamsule, Terephthalylidene dicamphor sulfonic acid), TINOSORB® M (Methylene Bis-Benzotriazolyl etramethylbutylphenol) หรือ TINOSORB® S (Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine) อยู่เป็น Active Ingredients หรือเป็นลำดับต้น ๆ ของส่วนผสมรึเปล่า
0 ความคิดเห็น