อัพเดทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลังไปทำเลเซอร์กำจัดขน

By Bro Sis ติดรีวิว - กันยายน 14, 2561

อัพเดทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลังไปทำเลเซอร์กำจัดขน



เนื่องจากช่วงนี้บูมทำเลเซอร์กำจัดขนบ่อยมาก (ทำทุกเดือน) ทำให้ผิวระคายเคือง แห้งลอก และคล้ำง่าย หลังจากปรับนู่น ลองนี่อยู่นาน เลยได้เป็นเซทนี้ ที่บูมใช้แล้วให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี (อิงจากสภาพผิวของบูม) ผิวแห้งลอกลดลง ผิวแข็งแรง และกระจ่างใสขึ้นจนมีคนทัก เอาหละ อย่าให้เสียเวลา เราไปดูกันเลยจ้า......

ใครไม่ชอบอ่านเนื้อหากดดูคลิปได้เลยจ้า

1. Maybelline : Micellar Water (400ml./229.-)

Maybelline : Micellar Water
ของถูกและดีมีในโลกจริงๆ เป็น Cleansing Water ที่บูมใช้ได้ตลอด ไม่ทำให้ผิวแห้ง ไม่ระคายเคือง เหมาะกับมนุษย์ที่ไม่ได้ลงเมคอัพหนาๆ (กันแดด/บีบี/รองพื้น และแป้งฝุ่น) แค่ขวดนี้ขวดเดียวจบจ้า แต่ใครที่ใช้พวก Waterproof อาจจะเอาไม่อยู่นะขอรับ ไม่พูดมากเจ็บคอ ไปดูประสิทธิภาพกันเลยจ้า

ทดสอบด้วย COLLECTION – Lasting Perfection Concealer

เช็ดด้วย Maybelline : Micellar Water

ผลลัพธ์หลังเช็ดด้วย Maybelline : Micellar Water
เป็นไงหละ บอกแล้วว่าเอาอยู่ ถ้าใครที่แต่งหน้าประมาณที่บูมบอก ใช้แค่ Maybelline : Micellar Water ขวดเดียวบูมว่าจบนะ แถมไม่ทำให้หน้าแห้งด้วยหละ เลิฟเลย 💖

2. Hada Labo : Mild & Sensitive Face Wash (100ml./179.-)

Hada Labo : Mild & Sensitive Face Wash
ใครว่า Hada Labo มีดีแค่น้ำตบ Cleanser เค้าก็ปังอยู่นะยูว์ ทำความสะอาดได้ค่อนข้างดี แถมอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวเสียสมดุล ล้างแล้วยังเหลือความชุ่มชื้นไว้บนผิว (อันนี้คือไม่ได้อวย ไม่ได้ใช้ฟรี และไม่ได้ค่าจ้างใดๆ นะครับ)

เป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่น ก่อฟองได้เล็กน้อย
นวดวนเบาๆ เพื่อดึงคราบเครื่องสำอางค์ออก

ทะดาา นี่ขนาดไม่ได้ใช้ Cleansing Water นะยังออกเกือบหมด


3. Pixi Glow Tonic 5% Glycolic Acid Exfoliating Toner (100ml/890.-)

Pixi Glow Tonic 5% Glycolic Acid Exfoliating Toner 100ml
โทนเนอร์ที่อยากลองมานานแล้ว ทดเสียงลือเสียงเล่าอ้างไม่ไหว เลยไปตำไซส์ 100ml. มาลองก่อน ปรากฏว่า เฮ้ย! มันดี กลิ่นดี ไม่เหนอะหนะ ใช้แล้วผิวดูกระจ่างใสขึ้น (มีคนทักว่าผิวดูขาวขึ้นนะ เป็นปลื้ม) 

เนื้อค่อนข้างเหลว และซึมไว ไม่ทิ้งความมัน/เหนอะหนะไว้บนผิว
ที่สำคัญคือไม่ทำให้ผิวแห้งลอก แถมยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอีก ถ้าราคาถูกกว่านี้ซักนิดจะเป็น Tonner ที่หาข้อติไม่ได้เลย (แต่ใครที่มีผิวระคายเคือง รอให้ผิวแข็งแรงขึ้นก่อนค่อนใช้นะค๊าบ)

4. The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5 (30 ml./420.-)

The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5
ยังคงวนเวียนอยู่กับแบรนด์นี้ ไม่ยอมไปไหน (ก็ของเค้าดี) ต้องบอกว่าในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ที่บูมทำเลเซอร์กำจัดขนแล้วมีอาการระคายเคือง และผิวแห้งลอก เซรั่มตัวนี้เป็น 1 ในไอเท็มที่ช่วยได้เยอะมากจริงๆ ใช้ 1-2 วัน รู้เรื่อง ผิวที่แห้งลอก หายสนิท แถมเซทตัวได้ค่อนข้างไว และไม่ทิ้งความมัน/เหนอะหนะไว้บนผิวอีก ใครยังไม่เคยลอง  ต้องไปตำบอกเลย!

5. La Roche Posay : TOLERIANE ULTRA LIGHT (40m./960.-)

La Roche Posay : TOLERIANE ULTRA LIGHT
เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เบสิคมาก ถึงมากที่สุด ถึงแม้ค่าตัวอาจจะไม่ถูกนัก แต่ความดีงามของนางคือ ไม่มีสารกันเสีย แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารที่อาจก่อนให้เกิดการระคายเคืองอื่นๆ ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะหยิบเค้าขึ้นมาใช้ในช่วงที่ทำเลเซอร์อย่างหนักหน่วงแบบนี้

เนื้อเจล ค่อนข้างเบา เกลี่ยและซึมง่าย ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว

6. La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM (50ml./1,300.-)

 La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM
ถึงแม้ค่าตัวจะค่อนข้างสูง แต่ในด้านประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดนั้น ทำได้อย่างไม่มีข้อกังขาเลยทีเดียว บูมเคยใช้ตอนไปเที่ยวใต้หลายวัน กลับมาสีผิวไม่คล้ำขึ้นเลย ดังนั้นเจ้า  La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM จึงเป็น 1 ในกันแดดที่บูมวางใจมากในช่วงที่ผิวคล้ำเสียง่ายแบบนี้ 


เสียอย่างเดียวคือ เนื้อสัมผัสของเค้าค่อนข้างหนาและหนัก ถ้าใครมีผิวผสมค่อนไปทางมัน บูมแนะนำว่า หลังทา  La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM ควรลงแป้งฝุ่นซับซะหน่อย ไม่งั้นรับรองความไหลหยด ย้อยชัวร์!



นี่แหละคือผลิตภัณฑ์ที่กู้หนังหน้าบูมในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านการทำเลเซอร์กำจัดขนมาอย่างต่อเนื่อง บอกเลยว่าเอาอยู่ทั้งในเรื่องผิวระคายเคือง แห้ง ลอก รวมถึงผิวคล้ำเสีย ใครที่มีสภาพผิวคล้ายๆ กัน และมีปัญหาแบบนี้กับบูม ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับ

  • Share:

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น