dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvenating Serum อีกหนึ่งไอเทมเสริมปราการผิว ที่มงไม่ลงไม่ได้แล้ว

By Bro Sis ติดรีวิว - กุมภาพันธ์ 26, 2563

dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvenating Serum อีกหนึ่งไอเทมเสริมปราการผิว ที่มงไม่ลงไม่ได้แล้ว

dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvinating Serum
เราได้ยินกิตติศัพท์ของ dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvenating Serum ขวดนี้มาซักพักใหญ่ๆ แล้วว่านางจัดเต็ม แบบถ้าเรียกถ้าเป็นอาหารแล้วหละก็เรียกว่าเป็น Buffet แบบ Premium ได้เลยหละ ทำให้เราวอแวกับนางอยู่ซักพักจนกดสั่งแบบไร้สติสุดๆ แต่พอได้มาลองและได้เห็นส่วนผสม ถึงได้เข้าใจว่าทำไมคนถึงชอบกันทั่วบ้านทั่วเมือง และรู้สึกตั้งคำถามกับเองว่า นี่เราไปอยู่ไหนมา ทำไมถึงเพิ่งมารู้จัก!! เอาเป็นว่าไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าฮะ....

The  Claim

dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvinating Serum
dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvinating Serum(40ml./1,650.-) : ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เสริมชั้นผิวให้แข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย 

อ่านคำเคลมแล้วก็ดูจะเหมือนผลิตภัณฑ์ทั่วไปจริงไหมครับ แต่เจ้าเซรั่มขวดนี้มีจุดขายก็คือ Multi-Lamellar Emulsion Techonology (MLE) ที่เคลมเรื่องของการทำให้เนื้อครีมสามารถซึมลงผิวของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากที่เราหาข้อมูลมาเราเข้าใจว่าเทคโนโลยี MLE ก็คือรูปแบบของ Liquid crystal  หรือให้พูดง่ายๆ คือ ตัวสารถูกอยู่ในรูปแบบ oil-in-water emulsion ที่มีความคล้ายคลึงกับไขมันที่เป็น Barrier ผิว ทำให้มันสามารถจะผสมกับไขมันในผิวและช่วยเพิ่มการนำส่งสารเข้าผิวได้ดีขึ้นนั่นเองฮะ

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : เนื้อเซรั่มเบาม๊ากกกก น่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยก็ว่าได้ ซึ่งส่วนตัวแล้วเรามองว่าตัวนี้เป็น Pre-Serum ที่ดีนะ ทั้งในแง่ของเนื้อสัมผัส และการไม่รบกวนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะทาต่อ 
  • Scent : ไหว้ย่อ 1 ครั้ง ให้กับการไม่ใส่น้ำหอม ซึ่งถ้าใครติดตามเรามานานน่าจะรู้ดีว่าถ้าเลือกได้เรา จะเลือกสกินแคร์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมมากกว่า เพราะลดโอกาสที่จะแพ้ ระคายเคืองได้มากกว่านั่นเองฮะ
  • Packaging : เป็นแบบที่เราชอบและไม่ชอบในขวดเดียวกัน อะงงหละซิ! คือ เราชอบตรงหัวดรอปเปอร์ที่เป็นแบบ Auto Pump ไม่ต้องมากดให้วุ่นวาย / แต่ที่ไม่ชอบ คือ ยังต้องมาหมุนเปิด-ปิด อยู่ดี น่าจะทำเป็นแบบ Airless-Pump ไปเลยเพราะเวลาเราทาตัวอื่นๆ ที่เป็น Dropper ก็ต้องมานั่งหมดเปิด-ปิดหลายๆ ตัว(วิถีคนนี้เกียจอะเนอะ)

Key Ingredients

เป็นอีกครั้งที่เรานั่งจับ Key Ingredients ด้วยอาการมึนหัวแบบสุดๆ ไม่ได้เมากาวแต่อย่างใดเด้อ เพราะทางแบรนด์เล่นใส่สารมาแต่ละตัวคือมันเป็น Key ได้หมดเลย เราเลยต้องนั่งเลือก และทำการบ้านหนักพอสมควร เอาเป็นว่าไปชมหันเลยฮะ...

  • Centella Asiatica Extract : สารสกัดจากใบบัวบก มีสารออกฤทธิ์สำคัญคือ Triterpenoids, Madecassoside, Madecassic Acid, Asiatic acid, Asiaticoside, Centelloside และ Brahmic acid  ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาสมานแผลทำให้แผลหายเร็ว ยับยั้งกระบวนการเกิดแผลเป็นชนิดนูน มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ช่วยลดอาการอักเสบและลดรอยดำรอยแดงได้ อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I และ III แถมยังลดการอักเสบของผิวที่เกิดจากแสง UV ได้อีกด้วย
  • Niacinamide : หรือวิตามิน B3 เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวในหลายด้าน อาทิ ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ(hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเซราไมด์ (ceramide) และยังทำให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับการระคายเคือง (irritants) ต่างๆได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถลดความมันบนใบหน้า (sebum excretion) และยังเป็น Whitening อีกด้วย 
  • Myristoyl/palmitoyl oxostearamide/arachamide MEA : เป็น PseudoCeramides ที่มีประโยชน์ในการเหนี่ยวนำให้ผิวสร้างไขมันใหม่ออกมาฟื้นฟู Barrier ผิวที่เสียหาย นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยี MLE (Multi lamella emulsion) formula จะช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารต่างๆเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
  • Caprylamide MEA และ Hexacarboxymethyl dipeptide-12 : เป็นคู่สารที่ทางแบรนด์เคลมในเรื่องการส่งเสริมการเกิดกลไก Autophagy ของผิวซึ่ง Autophagy เป็นกลไกในการซ่อมแซมตนเองของร่างกาย โดยกำจัดชิ้นส่วนที่มีความเสื่อมออกไป เอาชิ้นส่วนไป recycle เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูและสร้างชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบใหม่ๆขึ้นมาทดแทนส่วนเก่าที่เสื่อมสภาพไป ช่วยให้ผิวกลับคืนสู่สมดุล ลดความเครียด และลดความเสื่อมสภาพของผิว
นอกจากนี้ยังมี Phytosterols ที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว และเกราะป้องกันผิว(skin barrier) เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว(skin elasticity) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และไฮยาลูรอน ตามธรรมชาติของผิว และยังมี Allantoin ช่วยลดการระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว (Soothing effect) และ Arginine เป็นกรดอะมิโน ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น โดยเป็น NMF (Natural moisturizing factor) ช่วยผิวจับน้ำเอาไว้


 Let's Try...


เราได้ลอง dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvinating Serum มาประมาณ 3 วีคซึ่งก็เพียงพอที่จะให้เรามาพูดถึงน้องคนนี้ได้แล้วหละ ซึ่งหากเพื่อนๆ สังเกตุบริเวณแก้มและขมับ(ในภาพ Before)จะเห็นว่าเรามีสิวอักเสบขึ้นมาแบบเอะอะพมสมควร แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 3 Week ปรากฏว่า...


สิวอักเสบทั้ง 2 ตำแหน่งสงบขึ้น โดยเฉพาะบริเวณข้างแก้มที่ดูเหมือนจะหายไปเลยแฮะ ที่สำคัญคือไม่ทิ้งรอยดำ/รอยแดงไว้เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดสิวได้โดยตรง แต่เราคิดว่าเค้าช่วยควมคุมไม่ให้ลุกลามและบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ผิวโดยรวมยังดูอิ่มฟู และชุ่มชื้นขึ้นด้วยหละ รวมถึงความคล้ำเสียจากช่วงก่อนหน้านี้ที่เราใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม BHA ก็ดูดีขึ้น ผิวโดยรวมดูไบร์ทขึ้นเล็กน้อย

สรุป

dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvinating Serum
โดยรวม dermArtlogy Ageless Barrier Rejuvinating Serum สามารถคาดหวังผลได้ในเรื่องการลดการระคายเคือง เพิ่มความแข็งแรงของผิว รวมถึงช่วยลดความคล้ำเสียของผิวจากรังสี UV ได้จริง ที่สำคัญคือสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว และไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวได้ดี สำหรับเราแล้วขอยกให้เป็น One of The Best Serum อีกตัวที่ควรต้องมีติดบ้านไว้ไม่ให้ขาดเลยหละฮะ

ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ และอย่างที่เราพูดเสมอว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น Based on สภาพผิว/ปัญหาผิว ไลฟ์สไลต์ การดูแลตัวเอง และการพักผ่อนของเราเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคนนะครับ

ส่วนคำถามที่ว่า : ใช้แล้วจะแพ้ไหม อุดตัน สิวจะขึ้น จะระคายเคืองหรือเปล่า ? บูมไม่สามารถตอบให้ได้ครับ เนื่องจากสภาพผิว การใช้ชีวิต และการดูแลผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน ดังนั้นบูมแนะนำว่าหากจะลองผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง ให้เริ่มลองที่ท้องแขนก่อน แล้วสังเกตุอาการแพ้ จากนั้นค่อยขยับไปที่บริเวณลำคอและใบหน้าตามลำดับครับ


  • Share:

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น