ISDIN FLAVO-C ULTRAGLICAN & FLAVO-C MELATONIN SERUM | แอมพลูกู้ผิวที่ได้ลองแล้วต้องหลงรัก !!
By Bro Sis ติดรีวิว - มีนาคม 14, 2565
เมื่อไม่กี่วันก่อนเรามีโอกาสเข้าไปส่อง Beauty Comunity Website ที่น่าสนใจอย่าง ChoiceChecker มาแล้วพบว่า..เฮ้ย! มันดจีย์อะ ทั้งความเข้าใจง่ายของตัวระบบที่ทำให้ผู้ใช้ใหม่อย่างเราเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการแบ่งหมวดหมู่หัวข้อ และมีระบบในทดสอบสภาพผิวหน้าแบบออนไลน์ที่ค่อนข้างน่าสนใจและเป็นประโยชน์กันผู้ใช้งาน ด้วยเหตุผลทุกสิ่งอันทำให้เราเกิดความคันไม้คันมือ ขอประเดิมบทความแรกของตัวเองลงเว็บไซต์เขาซักหน่อย
ครั้งนี้เราเลือกเขียนรีวิว ISDIN FLAVO-C ULTRAGLICAN & FLAVO-C MELATONIN SERUM ที่เราทดลองใช้มาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาแล้วกำลังแพลนจะทำรีวิวพอดี เลยเลือกเขียนทาง ChoiceChecker เป็นที่แรกโดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมได้ที่ (Link) แล้วจึงพอร์ตบทความมาลงใน Blog ส่วนตัวของเราเพิ่มเติมอีกครั้งนึง เอาเป็นว่าอย่างรอช้าเราไปชมเนื้อหากันเลยจ้า...
ISDIN แบรนด์สกินแคร์สัญชาติสเปนที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ฝากความประทับใจในตัวกันแดดให้บูมไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Serum, Ampoule หรือ Concentrate ที่มีส่วนผสมของ Vitamin C เป็นองค์ประกอบ เราจึงอดไม่ได้ที่จะลอง FLAVO-C ULTRAGLICAN & FLAVO-C MELATONIN SERUM ซึ่งมาในรูปแบบสุดฮิตในตอนนี้อย่าง ampoule ซึ่งเราได้ลองใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนเต็มๆ จนคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่จะมาป้ายยาอย่างเป็นทางการขอรับ
ISDIN FLAVO-C ULTRAGLICAN & FLAVO-C MELATONIN SERUM
ISDIN ISDINCEUTICS FLAVO-C ULTRAGLICAN SERUM ซีรั่มวิตามินซีเข้มข้นโดยทางแบรนด์เลือกใช้วิตามินซีที่มีงานวิจัยรองรัยมากที่สุดอย่าง L-ascorbic acid เพื่อช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย รวมถึงเพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ผิว แถมยังได้ UltraGlycans และ Hyaluronic acid เข้ามาเสริมเรื่องความชุ่มชื้นและความแข็งแรงของผิวได้อย่างลงตัว
เมื่อใช้ร่วมกับ ISDIN ISDINCEUTICS FLAVO-C MELATONIN SERUM ซีรั่มอนุพันธ์วิตามินซีในรูปแบบ 3-O-Ethyl ascorbic acid ที่ขึ้นชื่อเรื่องความกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีความเสถียรค่อนข้างสูง ผนวกเข้ากับส่วนผสมที่มาแรงมากๆ ในตอนนี้อย่าง Melatonin และ Vit A TECH ที่ทำหน้าที่ในการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่โดนทำร้ายจากมลภาวะและรังสี UV พร้อมกระตุ้นกระบวนการ Cell Trunover จึงช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ แลดูจางลงเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์มาให้ 2 อย่างนั่นคือที่หัก ampoule เพื่อช่วยให้เปิดผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับที่ครอบ ampoule ไว้สวมลงบนแอมพลูหลังเปิดใช้ จุดประสงค์เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและช่วยควบคุมปริมาณผลิตภัณฑ์ให้ไม่หกเลอะเทอะ (ในส่วนนี้เราแนะนำว่าต้องออกแรงสวมที่ครอบนิดนึงนะครับ และพยายามครอบให้แน่นซักหน่อยเพื่อไม่ให้เวลาล้มแล้วน้องเค้าแยกร่างกันฮะ)
ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์มาให้ 2 อย่างนั่นคือที่หัก ampoule เพื่อช่วยให้เปิดผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับที่ครอบ ampoule ไว้สวมลงบนแอมพลูหลังเปิดใช้ จุดประสงค์เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและช่วยควบคุมปริมาณผลิตภัณฑ์ให้ไม่หกเลอะเทอะ (ในส่วนนี้เราแนะนำว่าต้องออกแรงสวมที่ครอบนิดนึงนะครับ และพยายามครอบให้แน่นซักหน่อยเพื่อไม่ให้เวลาล้มแล้วน้องเค้าแยกร่างกันฮะ)
หลังประกอบร่างเสร็จแล้วหน้าตาน้องก็จะดูมีความ...เอ้อ! เป็นงานทดลองวิชาวิทยาศาสตร์เข้าไปอี๊ก ซึ่งทางแบรนด์แนะนำว่าให้ใช้ผลิตภัณฑ์ครั้งละ 1/2 แอมพลู ทาทั่วบริเวณใบหน้า ลำคอ รวมถึงทามือด้วย แต่เท่าที่เราลองใช้มาเราพบว่าด้วยสภาพผิวผสมของเราการทาครั้งละครึ่งแอมพลูนั้นเยอะเกินไป และเราก็ไม่ได้ทาบริเวณมือด้วย ดังนั้นเราจึงละปริมาณลงเหลือเป็นครั้งละ 1/4 แอมพลูแทนครับ
Texture (เนื้อสัมผัส) ของซีรั่มทั้ง 2 สูตรจะมีความคล้ายกันคือมาในรูปแบบ Liquid ที่มีความเข้มข้นและมีความมันเล็กน้อย แต่เมื่อปล่อยให้ผลิตภัณฑ์เซตตัวบนผิวก็ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะเอาไว้บนผิว ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น สามารถลงผลิตภัณฑ์อื่นต่อได้โดยไม่เกิดอาการ Ball-up และไม่รบกวนการแต่งหน้า
เรามีเก็บภาพที่ระทึกของจำนวน ampoule ทั้งหมดที่เราใช้ใน 1 เดือนเอาไว้ยืนยัน นั่งยัน นอนยังว่านี่ใช้จริง ไม่ได้จกตาเด้อ! ซึ่งอย่าได้ถามว่าทำไปทำไมเพราะมีแต่คนบ้าแบบเราเท่านั้นที่ทำสิ่งเหล่านี้ (คูมแม่เดินไปหยิบไม้เรียวแล้วจังหวะนี้!! = =")
Before & After
ปิดท้ายด้วยภาพผลลัพธ์หลังใช้ ISDIN FLAVO-C ULTRAGLICAN & FLAVO-C MELATONIN SERUM ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนเราพบว่า..ผิวโดยรวมดูนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวอิ่มฟู ดูแน่นและดูเรียบเนียนขึ้นเมื่อมองด้วยตาเปล่า รวมถึงความกระจ่างใสที่ดู Shine ออกมาบนผิวเมื่อแสงตกกระทบทำให้ผิวดูสุขภาพดีไปอี๊ก โดยรวมถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจเลยทีเดียวหละครับ
แต่ทั้งนี้เราอยากให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าผลลัพธ์ดังกล่าว Based-on สภาพผิว การดูแลตัวเอง ไลฟ์สไตล์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันในช่วงนี้เป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล / ส่วนคำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะระคายเคืองหรือไม่นั้น เราไม่สามารถตอบได้เนื่องจากอาการแพ้-ระคายเคืองนั้นมีปัจจัยการเกิดที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ดังนั้นก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตามเราแนะนำให้ทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอเพื่อสังเกตุอาการแพ้ก่อนใช้บนใบหน้าขอรับ
0 ความคิดเห็น