วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2561

The Ordinary สกินแคร์แบรนด์ "ธรรมดา" ที่ "ไม่ธรรมดา"

The Ordinary สกินแคร์แบรนด์ "ธรรมดา" ที่ "ไม่ธรรมดา"

รีวิว The Ordinary
จากความคิดเมื่อก่อน ที่บูมเคยคิดว่าสกินแคร์ที่ส่วนผสมดี มักจะราคาแพงระยิบ และเข้าถึงยาก แต่ในที่สุดก็ถึงยุคที่มนุษยชาติจะได้ใช้สกินแคร์ดีๆ ราคาไม่แรง กันซักที วันนี้บูมเลยขอหยิบเอา ส่วนหนึ่งของสกินแคร์ของแบรนด์ The Ordinary ที่บูมเคยใช้ (ก่อนหน้านี้เคยรีวิว Niacinamide ไว้ใน >>> ลิงค์รีวิว Niacinamide 10% ) มาให้เพื่อนชม เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจนะครับ อย่ารอช้า ไปเริ่มกันเลย......

Ascorbyl Glucoside Solution 12% (30ml. / 16.70 USD)

The Ordinary  : Ascorbyl Glucoside Solution 12%

The Ingredients :  เปิดประเดิมด้วยเซรั่มตัวแรก คือ Ascorbyl Glucoside Solution 12% สาร Active Ingredient หลักๆ ที่น่าสนใจคือ 
  • Ascorbyl Glucoside : หรือที่นิยมเรียกว่า AA2G คือ วิตามินซี ที่ค่อนข้างเสถียร สามารถผสมในน้ำได้ทันที มีประสิทธิภาพทั้งในด้าน whitening ให้ผิวกระจ่างใส และลดอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว
  • Aminomethyl propanol : เป็นสารปรับค่า pH ที่สามารถพบได้ในโลชั่น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและครีมบำรุงผิว Aminomethyl propanol จะปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์เพื่อให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ค่า pH ของสูตรยังสามารถมีผลกระทบต่ออายุการใช้งานของสูตรที่อยู่ภายในภาชนะบรรจุ 
  • Dimethyl isosorbide ตัวทำละลายที่ละลายในไขมัน มีหน้าที่เป็น Emollient ช่วยให้ผิวนุ่ม มีผลลดความหนืดของผลิตภัณฑ์ให้เกลี่ยง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มความคงตัวให้สารในผลิตภัณฑ์ และมีคุณสมบัติเป็น Percutaneous absorption enhancer ช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารผ่านผิว 

Ingredients
Aqua (Water), Ascorbyl Glucoside, Propanediol, Aminomethyl Propanol, Triethanolamine, Isoceteth-20, Xanthan gum, Dimethyl Isosorbide, Ethoxydiglycol, Trisodium Ethylenediamine Disuccinate, 1,2-Hexanediol, Caprylyl Glycol.

The Ordinary  : Ascorbyl Glucoside Solution 12%

Texture : เซรั่มตัวนี้เป็น Water Base เนื้อใสๆ ซึมลงบนผิวค่อนข้างไว เมื่อเซทตัวแล้ว จะไม่ทิ้งความมัน/เหนอะหนะ ไว้บนผิว 

The Ordinary  : Ascorbyl Glucoside Solution 12%
Scent : เนื่องจาก The Ordinary  : Ascorbyl Glucoside Solution 12% ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม จึงค่อนข้างสบายจมูก ที่สำคัญยังลดโอกาสการระคายเคืองไปได้อีกด้วย


Alpha Arbutin 2% + HA (30ml. / 12.90 USD)

Alpha Arbutin 2% + HA

The Ingredients :  เปิดประเดิมด้วยเซรั่มตัวแรก คือ Ascorbyl Glucoside Solution 12% สาร Active Ingredient หลักๆ ที่น่าสนใจคือ 
  • Alpha Arbutin : อัลฟ่าอาร์บูติน เป็นสารทำหน้าที่ปรับให้ผิวกระจ่างใส และสีโทนเดียวกัน(even-tone) โดยเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท ปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนสารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) มีประสิทธิภาพดีกว่า แต่ไม่นิยมใช้แพร่หลายเนื่องจากราคาสูงกว่าสารไฮโดรควิโนนมาก โดย Alpha-Arbutin สามารถลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เซลล์ผิวหนังได้ ด้วยการลดเอ็นไซม์ Tyrosinase ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนสาร Tyrosine และ Dopa ให้เป็นเมลานิน 
  • Sodium Hyaluronate : ช่วยเติม น้ำหล่อเลี้ยงและล็อคความชุ่มชื้นใต้ชั้นเซลล์ผิว เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอผิวหน้าจะแลดูเรียบเนียน เต่งตึง มีความยืดหยุ่น กระชับ แลดูมีชีวิตชีวา ผิวหน้าจึงดูอ่อนเยาว์ มีสุขภาพดี และการสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่องด้วย Sodium Hyaluronate จะช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยแห่งวัย และความแห้งกร้านที่เกิดจากการขาดการบำรุงได้เป็นอย่างดี
  • Lactic Acid : กรดแลคติก เป็นกรดธรรมชาติที่สกัดด้วยกระบวนการ fermentation หรือการบ่ม ของอาหารกลุ่มนม มีฤทธิ์สามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิว (peeling) ซึ่งมีความอ่อนโยนกว่า glycolic acid โดยการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และมีสีโทนเดียวกัน (even-tone) มากขึ้น

Ingredients :
Aqua (Water), Alpha-Arbutin, Polyacrylate Crosspolymer-6, Hydrolyzed Sodium Hyaluronate, Propanediol, PPG-26-Buteth-26, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Lactic Acid, Trisodium Ethylenediamine Disuccinate, Ethoxydiglycol, Phenoxyethanol, Chlorphenesin.

Alpha Arbutin 2% + HA

Texture : เซรั่มตัวนี้เป็นน้ำใสๆ แต่มีความหนืดเล็กน้อย เพราะตัว Sodium Hyaluronate น่าจะเหมาะกับสภาพผิวแห้ง หรือผิวผสมมากกว่าครับ

Alpha Arbutin 2% + HA
Scent : เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม จึงลดโอกาสการระคายเคืองไปได้อีกเยอะเลยหละครับ

100% Cold-Pressed Virgin Marula Oil (30ml. / 15.20 USD)

100% Cold-Pressed Virgin Marula Oil

The Ingredients :  นอกจาก Argan Oil ที่เราคุ้นหูแล้ว ยังมีเมล็ดพันธ์อีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ Marula Oil ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Sclerocarya Birrea Seed Oil"
  • Sclerocarya Birrea Seed Oil : Marula Oil สกัดจากเมล็ดผลไม้ เมล็ดเหล่านี้ถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือโดยผู้หญิงท้องถิ่นจากแอฟริกาใต้ เป็นส่วนผสมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำมันบำรุงผิวพรรณชั้นเลิศ มีคุณสมบัติ :
    • ต่อต้านริ้วรอยที่แห่งวัย
    • มีกรดไขมันจำเป็นต่างๆ มากมายที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ
    • มีวิตามินอีธรรมชาติ
    • มีคุณสมบัติช่วยสมานและซ่อมแซมผิว
    • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูง
    • อายุการเก็บรักษาที่ยาวนานและทนต่อการเกิดออกซิเดชัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารกันบูด
    • มีโพลีฟีนอล และ สเตอรอยด์ธรรมชาติจากพืช  

Ingredients

Sclerocarya Birrea Seed Oil.

Texture : ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็น Oil Base แต่สัมผัสที่ได้มันอะเมซิ่งมากกกกกก เป็นออยล์ที่เบาบาง ซึมไว ทาแล้วให้ความชุ่มชื้นบนผิวได้ยาวนานตลอดคืน

Scent : เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม จึงลดโอกาสการระคายเคืองไปได้อีกเยอะเลยหละครับ

EUK 134 0.1%(30m. / 12.70 USD)

EUK 134 0.1%

The Ingredients :  และแล้วก็เดินทางมาถึงผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้าย นั่นก็คือ EUK 134 0.1% ที่เราอาจไม่คุ้นหู แต่ในวงการวิทยาศาสตร์รู็จักในชื่อ "Ethylbisiminomethylguaiacol Manganese Chloride" เป็น synthetic superoxide dismutase ชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นสารแอนติออกซิแดนท์คุณภาพสูงมากหนึ่งตัว ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และชะลอวัยได้เป็นอย่างดี

Ingredients
Propanediol, Ethylbisiminomethylguaiacol manganese chloride.

EUK 134 0.1%
Texture : ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ทางแบรนด์บอกว่า Oil-Free แต่จากที่บูมลองใช้ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนไปในทาง Oil Base และที่สำคัญคือ ค่อนข้างมัน และเหนอะนะ ทำเอาบูมไม่ชอบเอาซะเลย (ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่บูมไม่ปลื้มที่สุดจากที่ทดลองใช้มา) 

นอกจากนี้ด้วยความันระดับนี้ มีโอกาสค่อนข้างสูงเลยหละครับ ที่จะทำให้ผิวมันยิ่งขึ้น รวมถึงอาจอุดตันรูขุมขน และก่อให้เกิดสิวอุดตัวได้อีก

Scent : เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม จึงลดโอกาสการระคายเคืองไปได้อีกเยอะเลยหละครับ

Conclusion

The Ordinary
จากที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ The Ordinary มาหลายตัว บูมขอสรุปสิ่งที่ชอบและไม่ชอบตามนี้ครับ

สิ่งที่ชอบ :

  • ราคา/ปริมาณ ที่สมเหตุสมผล 
  • ส่วนผสมน่าสนใจ ซึ่งเท่าที่ดูแบรนด์อื่นราคาสูงกว่านี้ และเนื้อผลิตภัณฑ์ไม่ถูกกับผิวบูม
  • ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

สิ่งที่ไม่ชอบ :

  • ไม่มีขายในเมืองไทย ต้อง Pre-Order เท่านั้น 
  • บรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดแก้ว มีโอกาสตกแตกได้ง่าย รวมถึง Dropper ทำให้อากาสเข้าไปในผลิตภัณฑ์ทุกครั้งที่เปิดใช้งาน

เอาหละครับ ก็จบแล้วสำหรับ Mini Review ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ The Ordinary หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ในการตัดสินใจ ไม่มากก็น้อยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น