St. Ives : Apricot Scrub

By Bro Sis ติดรีวิว - มีนาคม 02, 2561

St. Ives : Apricot Scrub (170g./199THB)


ในบางครั้งนอกจากการปรนิบัติผิวด้วยการทาครีมบำรุง หรือทำทรีตเม้นท์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะโดยปกติแล้วผิวหน้าของคนเราจะมีเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพที่ยังไม่หลุดออกจากผิว คอยเกาะอยู่บนผิวหน้า และกระบวนการในการผลัดเซลล์ผิวหน้านั้นจะใช้เวลาประมาณ 28 วัน 

EXFOLIATION


การที่จะรอให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเสร็จสิ้นอาจไม่ทันใจสำหรับบางคน จึงต้องมีตัวช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพเป็นได้เร็วยิ่งขึ้น โดวยทั่วไปเราสามารถแบ่งการผลัดเซลล์ผิวได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
  1. Physical Exfoliation คือการผลัดเซลล์ผิวโดยใช้แรงในการขัด นวด ถู เพื่อให้เซลล์ที่เสื่อมสภาพค่อยๆหลุดออกไป
  2. Chemical Exfoliation คือการผลัดเซลล์ผิวโดยใช้วิธีการทางเคมี โดยสารที่เรารู้จักกันดี ก็คือ AHA, BHA โดยหลักการทำงานคือ ทำให้สารที่ยึดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพนั้นคลายตัวออก และหลุดไปในที่สุด (แต่อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือไม่ถูกกับสารกลุ่ม AHA และ BHA)
ด้วยเหตุนี้เองบูมจึงสนใจและเลือก St. Ives : Apicrot Scrub ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวแบบ Physical Exfoliation มาแชร์ให้เพื่อนๆได้รู้จักกันครับ


Screenshot%2B%25282%2529


คำโปรย : ผลิตภัณฑ์ขัดทำความสะอาดผิวหน้ามีส่วนผสมของสารสกัดจากผลแอปริคอตทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ช่วยผลัดเซลล์ผิวเผยผิวใหม่สดใสอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่มีวัตถุกันเสีย

วิธีใช้(ที่ทางแบรนด์เขียนไว้) : ใช้ขัดและนวดทั่วใบหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรใช้เป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง (ตรงนี้บูมแนะนำว่าควรเริ่มจากน้อยๆก่อนครับ เช่น ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แล้วค่อยๆเพิ่ม เพราะผิวของแต่ละท่านไม่เหมือนกันครับ)



เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อครีม สีเนื้ออ่อนๆ เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้นและหนักพอสมควรทำให้เวลานวดบนใบหน้าทำได้ง่าย ตัวเม็ดสครับไม่ได้ละเอียดมากแต่ก็ไม่ถึงกับคมจนบาดผิว ถือว่ากำลังพอดี กลิ่นหอมอ่อนประมาณหวานอมเปรี้ยว ทำให้รู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น

หลังใช้ St. Ives : Apicrot Scrub รู้สึกสดชื่นอาจและผิวดูเรียบเนียนขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวนะครับ ส่วนตัวแล้วบูมมีสิวอุดตันบ้างบริเวณจมูกตัวนี้ก็ช่วยลดได้เล็กน้อยถ้าใช้อย่างต่อเนื่อง 2 - 4 สัปดาห์


ส่วนประกอบสำคัญ : 

  1. Sodium Lauryl Sulfoacetate : เป็นสารทำความสะอาดอย่างที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า Sodium Lauryl Sulfate ซึ่งทางผู้ผลิตสารเขาว่าจะได้ไม่ดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง และไม่ระคายเคือง
  2. Cocamidopropyl Betaine : สารทำความสะอาดอีกหนึ่งตัวที่มีความระคายเคืองต่อผิวและดวงตาน้อย และมีความสามารถในการชำระล้างได้ดีแม้ในน้ำกระด้าง 
  3. PEG-100 Stearate : ได้รับจากน้้ามันธรรมชาติ เป็นสารทำความสะอาดอย่างอ่อนๆ ป้องกันอาการอักเสบ และติดเชื้อ ระงับอาการคันที่ผิวหนัง
  4. Prunus Armeniaca (Apricot) Fruit Extract : สารสกัดพลัมเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งจึงช่วยลดเลือนริ้วรอยบนผิวหน้าได้ดี ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่อ่อนแอ
  5. Juglans Regia (Walnut) Shell Powder : สครับจากวอลนัททำหน้าที่เป็นเสมือนเม็ดบีสต์ช่วยในการสครับผิวในขณะใช้ผลิตภัณฑ์

ข้อสังเกตุ : 

  • มี Acetylated lanolin alcohol ทำให้ผิวไม่แห้งตึง แต่ว่าอาจก่อให้เกิดสิวอุดตันได้
  • Fragrance (Parfum) มีน้ำหอมเป็นส่วนประกอบ
  • Methylisothiazolinone เป็นสารกันเสียกลุ่ม isothiazolinone ปัจจุบันกฏหมายไทย ให้ใช้ในปริมาณที่กำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์ล้างออก การแพ้สารตัวนี้ -> พบบ้าง แต่ก็ยังถือว่าน้อยครับ
st-ives-apricot-scrubs

สรุป :

จัดว่าเป็นสครับที่ดีตัวนึงเลย ทั้งในด้านฟิลลิ่งในการใช้และผลลัพธ์หลังการใช้อย่างเป็นประจำ ที่สำคัญคือราคาไม่แรงและหาซื้อง่ายตาม Watsons ก็มีขาย (เมื่อก่อนหายากม๊ากกกกกกกกก) แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังมีให้เลือกหลายสูตร (แต่ที่เข้าไทยเหมือนจะมีแค่บางสูตรนะครับ) บูมเคยใช้อีกสูตรที่เป็น Green Tea Scrub อันนั้นก็ดีเพราะเม็ดสครับละเอียดกว่ามากทำให้ไม่บาดผิว นวดเพลินกันเลยทีเดียวจ้า 

ยังไงหากเพื่อนๆ สนใจก็ลองไปหาซื้อมาใช้แล้วรู้สึกยังไงเข้ามาแชร์กันนะครับ ^_^


ส่วนประกอบ : Water (Aqua), Juglans Regia (Walnut) Shell Powder, Glyceryl Stearate, Glycerin, Sodium Lauryl Sulfoacetate, Zea Mays (Corn) Kernel Meal, Cocamidopropyl Betaine, Cetearyl Alcohol, PEG-100 Stearate, Cetyl Acetate, Polysorbate 60, Ceteareth-20, Acetylated Lanolin Alcohol, Triethanolamine, Fragrance (Parfum), Carbomer, PPG-2 Methyl Ether, Phenethyl Alcohol, Methylisothiazolinone, Prunus Armeniaca (Apricot) Fruit Extract, Titanium Dioxide (Cl 77891).

  • Share:

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น